หมวดหมู่: ข่าวกีฬา

ทรอย ดีนี่ย์ (Troy Deeney) อดีตกองหน้าชื่อดังของพรีเมียร์ลีก แสดงความคิดเห็นถึงผลงานของ เบนยามิน เชชโก้ (Benjamin Šeško) ดาวยิงตัวใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยังไม่สามารถปรับจังหวะการเล่นให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีมอย่าง มาเตอุส กุนญ่า (Matheus Cunha) และ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ (Bryan Mbeumo) ได้เลย

“ปีศาจแดง” คว้าตัวเชชโก้จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัวสูงถึง 74 ล้านปอนด์ ด้วยความหวังว่าเขาจะกลายเป็นหัวหอกคนสำคัญในระยะยาว แต่จนถึงตอนนี้เจ้าตัวยังไม่สามารถตอบแทนความคาดหวังได้ โดยยิงไปเพียง 2 ประตูจาก 11 นัด เท่านั้น

ดีนี่ย์ กล่าวผ่านรายการ The Football Exchange ว่า เขามองเห็นศักยภาพของเชชโก้ แต่ในทางปฏิบัติ ดาวยิงวัย 22 ปีรายนี้ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของทีมได้เลย

“เชชโก้ดูเหมือนลูกยีราฟมากกว่า เขายังดูเก้ ๆ กัง ๆ ในสนาม ถึงจะยิงได้ 2 เกมติดต่อกันก่อนเบรกทีมชาติ แต่พอกลับมา เขาเหมือนสูญเสียความมั่นใจอีกครั้ง” ดีนี่ย์กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

อดีตกองหน้าวัตฟอร์ดยังชี้ว่า ปัญหาของเชชโก้ไม่ได้อยู่แค่การยิงประตูไม่ได้ แต่เป็นเรื่องของ “การเคลื่อนที่และการสื่อสาร” กับเพื่อนร่วมทีมที่ยังไม่ลงตัว

“เขาสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว แต่กลับไม่ใช้ความแข็งแกร่งให้เป็นประโยชน์ เขาไม่ชนคู่แข่ง ไม่เก็บบอล และไม่หาช่องเชื่อมกับเพื่อนร่วมทีมเลย คุณมีทั้งกุนญ่าและเอ็มเบอโม่ที่พยายามเล่นด้วย แต่จังหวะมันสวนกันตลอด ถ้าคนหนึ่งจะเล่นสั้น เขากลับวิ่งหลบหลัง ถ้าคนหนึ่งจะให้บอลทะลุ เขากลับหยุดบอลซะงั้น มันไม่เคยจูนกันติดเลย”

ดีนี่ย์ยังตั้งคำถามถึงการบริหารทีมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ดูเหมือนยังคงวนอยู่กับการซื้อนักเตะดาวรุ่งค่าตัวแพง แต่ขาดผู้นำในแนวรุกที่จะช่วยสอนและประคองเด็กเหล่านี้

“พวกเขาเคยทุ่มเงินซื้อฮอยลุนด์ พอไม่เวิร์กก็ขายออกไป แล้วมาทุ่ม 70-80 ล้านปอนด์กับเชชโก้แทน ทั้งที่ยังไม่มีใครในทีมช่วยสอนกองหน้าหนุ่มเหล่านี้เลย มันไม่ใช่แค่เรื่องพรสวรรค์ แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้ในสนามด้วย”

เจ้าตัวยังทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงห่วงใยว่า หากยูไนเต็ดไม่ปรับแนวทางการสร้างทีม พวกเขาอาจต้องวนอยู่ในวงจรซ้ำเดิม — ซื้อแพง ขายขาดทุน แล้วเริ่มต้นใหม่ทุกปี

“ติดตามบทวิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีกแบบเข้มข้น และข่าววงในลูกหนังจากทุกลีกทั่วโลกได้ก่อนใครที่  [UFA365]  เว็บข่าวกีฬาครบวงจรสำหรับแฟนบอลตัวจริง!”

อัปเดตข่าวฟุตบอลรายวัน บทสัมภาษณ์นักเตะ และเจาะลึกตลาดซื้อขายได้ที่ www.slopezphotography.com

รุด กุลลิท (Ruud Gullit) ตำนานทีมชาติเนเธอร์แลนด์และอดีตนักเตะระดับโลก ออกโรงกระตุ้นให้ โจชัว เซิร์กเซ่ (Joshua Zirkzee) ดาวยิงรุ่นน้องของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนะนำให้กลับไปค้าแข้งใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กับทีมใหญ่อย่าง เอซี มิลาน

ดาวยิงวัย 23 ปีเพิ่งย้ายจาก โบโลญญ่า มาร่วมทีม “ปีศาจแดง” เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเลยแม้แต่นัดเดียว ลงสนามรวมเพียง 82 นาทีจาก 4 เกม ทำให้เริ่มมีข่าวลือหนาหูเกี่ยวกับการย้ายทีมในช่วงตลาดหน้าหนาว

กุลลิท ซึ่งติดตามฟอร์มของเซิร์กเซ่มาโดยตลอด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อดัตช์ว่า เขาเชื่อว่าการกลับไปเล่นในอิตาลีจะช่วยให้รุ่นน้องรายนี้คืนฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง

“ในมุมมองของผม เขาควรกลับไปอิตาลี เพราะที่นั่นเขาเล่นอย่างมั่นใจและมีแรงผลักดันสูง เขาทำได้ดีมากตอนอยู่โบโลญญ่า และผมคิดว่า เอซี มิลาน คือสโมสรที่เหมาะกับเขาที่สุด” กุลลิทกล่าว

ตำนานดัตช์ยังชี้ว่า การย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาจเป็น “การตัดสินใจที่เร็วเกินไป” เพราะนักเตะหลายรายที่ย้ายเข้ามาในช่วงไม่กี่ปีหลังมักต้องใช้เวลาปรับตัวนาน หรือบางคนก็ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้

“ทันทีที่เขาเลือกย้ายมา ยูไนเต็ด มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับเขา หลายคนที่ออกจากที่นี่ไป กลับไปประสบความสำเร็จในยุโรปอีกครั้ง ผมแค่หวังว่าเขาจะเจอเส้นทางที่เหมาะกับตัวเอง และได้เล่นฟุตบอลอย่างมีความสุข”

กุลลิทยังทิ้งท้ายว่า หากเป็นไปได้ การกลับไปอิตาลีด้วยสัญญายืมตัวอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้ เพื่อให้เซิร์กเซ่ได้โอกาสลงเล่นต่อเนื่องและพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ

“บางทีการกลับไปอิตาลีแบบยืมตัวก็เป็นทางเลือกที่ดี เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มาก แค่ต้องการเวลาและโอกาสลงเล่นเท่านั้น”

“อัปเดตข่าวซื้อขายนักเตะ และบทวิเคราะห์ฟุตบอลยุโรปได้ก่อนใครที่ [UFA365] เว็บข่าวกีฬาครบวงจรที่แฟนบอลตัวจริงไม่ควรพลาด!”

ติดตามข่าวฟุตบอลระดับโลกและบทความกีฬาคุณภาพเพิ่มเติมได้ที่ www.slopezphotography.com

อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือระดับตำนานของอาร์เซน่อล ออกโรงแสดงความเห็นว่า ฤดูกาลนี้ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นการขับเคี่ยวอย่างเข้มข้นระหว่างสโมสรจากพรีเมียร์ลีก กับสองยอดทีมอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิค ที่มีศักยภาพพอจะก้าวขึ้นคว้าโทรฟี่ยุโรปมาครอง

จากผลงานล่าสุดในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งสองทีมต่างทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดย เปแอสเช เก็บไปแล้ว 9 คะแนนจาก 4 นัดแรก ส่วน บาเยิร์น มิวนิค ทำสถิติชนะรวด 4 นัดเต็ม กลายเป็นหนึ่งในสามทีมที่มี 12 คะแนนร่วมกับ อาร์เซน่อล และ อินเตอร์ มิลาน

เวนเกอร์ ซึ่งปัจจุบันรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาฟุตบอลของฟีฟ่า กล่าวผ่าน beIN Sports ว่า ทั้งสองทีมเป็นคู่แข่งที่อันตรายสำหรับบรรดาทีมจากอังกฤษอย่างแท้จริง

“ผมเชื่อว่าทั้ง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ บาเยิร์น มิวนิค มีศักยภาพมากพอจะคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ได้ พวกเขามีขุมกำลังแข็งแกร่งไม่แพ้ทีมจากพรีเมียร์ลีกเลย”

เวนเกอร์ยังยกให้ เรอัล มาดริด เป็นอีกหนึ่งทีมที่ไม่ควรมองข้าม พร้อมระบุว่า ความได้เปรียบของทั้งสองทีมจากฝรั่งเศสและเยอรมนีคือ พวกเขาสามารถโฟกัสในเวทียุโรปได้เต็มที่ เพราะมักจะครองความเหนือกว่าในลีกของตนเอง

“เปแอสเชมีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ลีกเอิง เช่นเดียวกับบาเยิร์นในบุนเดสลีกา ดังนั้นเป้าหมายสำคัญของพวกเขาคือการล่าแชมป์ยุโรป พวกเขาจะสู้กับห้าทีมจากพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ซีซั่นนี้น่าจับตามองมาก”

เจ้าของฉายา Professor ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ฟอร์มของทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด และ ลิเวอร์พูล จะดูไม่คงเส้นคงวา แต่ความพร้อมของ บาเยิร์น มิวนิค และ เปแอสเช ในเวลานี้ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดของยุโรป

“ติดตามวิเคราะห์บอลลึกทุกมุม และอัปเดตข่าวฟุตบอลยุโรปได้ก่อนใครกับ [UFA365] แหล่งรวมข่าวกีฬาและบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง”

อ่านบทความฟุตบอลเพิ่มเติมและติดตามข่าวร้อนวงการลูกหนังได้ที่ www.slopezphotography.com